ข่าวประชาสัมพันธ์

โยงทวารวดีฟื้นประเพณีกู้ชีพข้าวหลามนครปฐม

  ทีมวิจัย ม.ราชภัฏนครปฐม ทำโครงการอนุรักษ์อารยธรรมทวารวดี ฟื้นประเพณีตักบาตรข้าวหลาม วัดพระงามที่ซบเซา ช่วยผู้ประกอบการข้าวหลามเป็นผลิตภัณฑ์จากทุนวัฒนธรรม

 

ผศ.ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้จัดทำโครงการทวารวดีนครปฐม: สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสํานึกรักท้องถิ่น โดยผสมผสานการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อสร้างกลไกและเครือข่ายความร่วมมือในการอนุรักษ์อารยธรรมทวารวดี ตลอดจนผู้ประกอบการวัฒนธรรมให้เกิดการเรียนรู้ ยกระดับความคิดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาในการสร้างรายได้

 

จากการศึกษา โดยจัดเวทีพูดคุยกับปราชญ์ชาวบ้านจาก 4 พื้นที่ คือ 1. ชุมชนดอนยายหอม 2. ชุมชนธรรมศาลา 3. ชุมชนพระประโทนเจดีย์และไร่เกาะต้นสำโรง 4. ชุมชนพระปฐมเจดีย์และวัดพระงาม ซึ่งมีโบราณสถานสมัยทวารวดีอยู่ในวัด ที่ชุมชน ท้องถิ่น และวัดร่วมดูแลรักษา พบว่า ชุมชนวัดพระงาม มีทุนวัฒนธรรมที่โดดเด่น คือ ประเพณีตักบาตรข้าวหลาม ที่ซบเซาไป วัดพระงามซึ่งเป็นพระอารามหลวงที่มีหลักฐานทางโบราณคดีร่วมสมัยทวารวดีกับองค์พระปฐมเจดีย์ก็ไม่เป็นที่รู้จัก จึงสรุปให้มีการฟื้นฟูประเพณีตักบาตรข้าวหลามให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เชื่อมร้อยผู้คนทั้งในและนอกชุมชนให้รู้จัก เห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์อารยธรรมทวารดีให้คงอยู่ ผ่านทุนวัฒนธรรม

 

การฟื้นฟูประเพณีตักบาตรข้าวหลามเกิดขึ้นจากประชามติในชุมชน โดยราษฎรบ้านพระงาม วัดพระงาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน และผู้ประกอบการร่วมมือกันฟื้นฟู ทีมวิจัย ทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนว่าควรเป็นข้าวหลามกระบอกสั้น ตกแต่งด้วยดอกไม้ สื่อให้คนที่ทำบุญเห็นว่า การทำข้าวหลามให้พอดีกับบาตร ประดับด้วยดอกไม้ เกิดความงาม ความศรัทธา เป็นพุทธบูชา

 

ผศ. ดร.วิรัตน์ กล่าวว่า การทำข้าวหลามขายในงานประเพณีเกิดขึ้นครั้งแรกในวันมาฆบูชาปี 2567 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมเพียง 1 ราย ทีมวิจัยการันตีจำนวนการขายข้าวหลามไว้อย่างน้อย 250 กระบอก ปรากฏว่า ไม่พอกับความต้องการ แสดงว่า คนในชุมชน และคนภายนอกสนใจประเพณีตักบาตรข้าวหลาม และการจัดคราวต่อมา ข้าวหลามขายได้เพิ่มขึ้นจาก 400 กระบอก จนถึง 600 - 700 กระบอก 

 

ประเพณีตักบาตรข้าวหลามจัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 7 ครั้ง ตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา  “สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ การตักบาตรข้าวหลามเป็นคุณค่าที่มาพร้อมกับมูลค่า โดยองค์ประกอบที่ต้องมี คือ ข้าวหลามประดับดอกไม้ เป็นเสน่ห์ และคุณค่า” นอกจากนี้ ทีมวิจัยและชุมชนวางแผนว่าข้าวหลามที่เหลือจะส่งต่อไปยังคนด้อยโอกาส บ้านพักเด็กและครอบครัว บ้านพักคนชรา โรงพยาบาล วัด เป็นการส่งต่อบุญให้กับคนอื่น ๆ ส่วนกรณีข้าวหลามไม่พอกับความต้องการ ทีมวิจัยก็แก้ปัญหาด้วยการหาร้านผลิตเพิ่มเพื่อให้พอกับความต้องการ

ปัจจุบันมีร้านค้า 5  ราย เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายในงานประเพณีตักบาตรข้าวหลาม ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มผู้ผลิตที่มีคุณภาพตามเกณฑ์เข้ามาเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น โดย 1 ใน 5 ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วม คือ นายเสวก ประดับแก้ว ผู้ประกอบการอาชีพข้าวหลามจังหวัดนครปฐม ชุมชนพระงาม 2 และเป็นรายแรก ที่ตัดสินใจเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูประเพณีตักบาตรข้าวหลาม กล่าวว่า อยากให้ข้าวหลามจังหวัดนครปฐมเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้กับชุมชน “จุดเด่นของข้าวหลามนครปฐม คือวัตถุดิบคัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดของประเทศ เช่นกระบอกไม้ไผ่ จากอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ที่เปลือกบาง เยื่อไผ่หนา  ข้าวเหนียวก็เลือกข้าวเหนียวเขี้ยวงูน้ำเงินจากจังหวัดเชียงราย ผสมกลิ่นหอมมันกะทิจากมะพร้าวของอำเภอทับสะแก จังหวัดชุมพร  รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานหรือเค็มเกินไป

 

 

 

#ตักบาตรข้าวหลาม

 

 

 

//////////////////////////////////////