ข่าวประชาสัมพันธ์

แนะไทยปรับตัวสู่นักวางกลยุทธ์ AI ไม่ใช่แค่ผู้ใช้

กรรมการสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กระตุกคนไทยปรับบทบาทจากผู้ใช้เป็นนักวางกลยุทธ์ AI เรียนรู้การป้อนข้อมูลอย่างเหมาะสม ออกแบบโมเดลธุรกิจตอบโจทย์อนาคต เพราะ AI เปลี่ยนโลกเร็วเกินคาดหมาย

รศ.ดร.ศิริเดช บุญแสง อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)  กรรมการสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาความสามารถด้านคณิตศาสตร์เพื่อก้าวทันการพัฒนา AI ไม่เป็นเพียงผู้ใช้เพื่อความสะดวกเท่านั้น ควรเปลี่ยนเป็นนักวางกลยุทธ์ AI ใช้อย่างมีกลยุทธ์ รู้ว่าข้อมูลแบบไหนควรป้อน AI ต้องคิด Business Model ใครจะลงทุน ใครจะได้ประโยชน์ ต้องมอง Business Model ให้ออกว่า ใครคือลูกค้า ใครคือผู้ใช้ งบประมาณเท่าไร มีใครพร้อมจ่าย

“นักศึกษา ต้องเรียนรู้ ใช้AI อย่างฉลาด เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ อย่าก๊อบ AI มาส่งการบ้าน เพราะเป็นการทำร้ายตัวเอง ปิดกั้นการพัฒนาสมอง จะเกิดความไม่เข้าใจจริงในระยะยาว  ควรใช้ AI พัฒนาตัวเอง เรียนรู้วิเคราะห์สิ่งที่ AI ตอบกลับมา ไม่ใช่แค่ให้งานจบๆ ไป”รศ.ดร.ศิริเดช

กรรมการสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน AI มีขีดความสามารถเทียบเท่าผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปี เริ่มเข้ามาทำหน้าที่แทนผู้เชี่ยวชาญหลายอาชีพ เช่น แพทย์และวิศวกร คาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า จะเห็นบริษัทเทคโนโลยีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีพนักงานเพียงคนเดียว ที่เหลือเป็น AI ทั้งหมด สงคราม AI เป็นอำนาจเชิงโครงสร้างและการแข่งขันของสหรัฐฯ และจีน ที่ทุ่มงบลงทุนมหาศาล บางบริษัทสูงถึง 3-5 เท่าของ GDP ประเทศไทย  

รศ.ดร.ศิริเดช กล่าวด้วยว่า อาชีพที่กำลังถูก AI คุกคาม ได้แก่ โปรแกรมเมอร์ระดับต้น นักผลิตสื่อ ที่ปรึกษา แพทย์อายุรกรรม  สจล. มองว่า AI ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นโอกาสที่ช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจได้ หากเข้าใจเพียงพื้นฐานก็สร้างแอปพลิเคชันหรือออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่โดยไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก

#

ติดตามข่าวสารของ สจล. ได้ทาง Facebook: https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์: https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-329-8000