ข่าวประชาสัมพันธ์

เอ็มเทคเปิดสูตรหัวลากธุรกิจยั่งยืนรีไซเคิลเม็ดพลาสติก หม้อแปลงไฟฟ้า

เอ็มเทค สวทช. ขับเคลื่อน Design for Circular Economy คิดก่อนทำ สู่โมเดลธุรกิจยั่งยืน นำร่องรีไซเคิลผลิตเม็ดพลาสติก หม้อแปลงไฟฟ้า

 

ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรม NSTDA x Press Interviews การออกแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน คิดก่อนทำ กุญแจสำคัญสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน โดยมี ดร.วิชชุดา เดาด์ นักวิจัยเอ็มเทค สวทช. นายอวยชัย ศิริวจนา กรรมการบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) นายฐิติพันธ์ วาณิชธนศรี ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี เอส เอ็ม พลาสิเทค กรุ๊ป ร่วมถ่ายทอดประสบการณ

ดร.วิชชุดา เดาด์ นักวิจัย ทีมวิจัยเทคโนโลยีพลาสติก กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง เอ็มเทค สวทช.  กล่าวว่า การออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Design for Circular Economy) คือคิดตั้งแต่ต้นทางว่าจะยืดอายุการใช้งาน คงคุณค่าทรัพยากรได้ยาวนานที่สุด เมื่อสิ้นรอบการใช้งานต้องออกแบบเส้นทางชีวิตรอบถัด ๆ ไปให้กับวัสดุได้ ทั้งการซ่อมแซม นำกลับมาใช้ซ้ำ การรีไซเคิล หรือแปลงเป็นพลังงาน แทนผลิต–ใช้–ทิ้ง ที่สร้างของเสียและภาระต่อสิ่งแวดล้อม

“ปัจจุบันความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นความจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมไทย เอ็มเทค สวทช. จึงเป็นพี่เลี้ยงด้านนวัตกรรม สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้นำการออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ได้จริง ด้วยโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการส่งเสริมการออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Design for Circular Economy) เพื่อการใช้ทรัพยากรแร่และโลหะอย่างยั่งยืน สนับสนุนโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม”

          ดร.วิชชุดา เดาด์ กล่าวต่อว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลิตภัณฑ์ Made in Thailand จะก้าวสู่ทิศทางที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (renewable resources) และวัสดุที่รีไซเคิลได้ง่าย การออกแบบให้ถอดแยก ซ่อมแซม อัปเกรดได้ เพื่อลดการเกิดขยะ ยืดอายุการใช้งาน ระบบการผลิตในอนาคตจะถูกออกแบบให้สามารถส่งต่อข้อมูลตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้ Digital Product Passport (DPP) เพื่อระบุประเภทวัสดุ ส่วนประกอบ วิธีถอดแยก การซ่อมบำรุง และแนวทางจัดการเมื่อสิ้นอายุการใช้งาน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้รีไซเคิล ผู้ผลิตในรอบถัดไปเข้าถึงได้ง่าย นำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำได้เต็มศักยภาพ Circular Economy คืออนาคต ผู้ประกอบการไทยสร้างมาตรฐานใหม่ระดับสากล

นายฐิติพันธ์ วาณิชธนศรี ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี เอส เอ็ม พลาสิเทค กรุ๊ป กล่าวว่าบริษัทผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล คุณสมบัติใกล้เคียงเม็ดใหม่ (virgin) ถึง 80% นำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และบรรจุภัณฑ์ได้ จุดแข็งของบริษัทคือกระบวนการผลิตแบบ requirement-driven เริ่มจากความต้องการของลูกค้า ร่วมกับโรงงาน แบรนด์สินค้า และชุมชน คัดแยกและเตรียมวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ได้มาตรฐาน Global Recycle Standard (GRS) ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน เม็ดพลาสติกรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าคาร์บอนฟุต พรินต์เพียง 0.3–0.45 กก. CO₂/กก. น้อยกว่าเม็ดใหม่ที่ปล่อยสูงถึง 1.8 กก. สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอีกด้วย

นายฐิติพันธ์ กล่าวอีกว่า ความสำเร็จของบริษัทมาจากความร่วมมือกับ เอ็มเทค สวทช. พี่เลี้ยง สนับสนุนองค์ความรู้ Design for Circular Economy ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการวิเคราะห์สารเคมีในพลาสติกอย่างละเอียด ทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล โดยเฉพาะกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดด้านสัดส่วนวัสดุรีไซเคิลและคาร์บอนฟุตพรินต์ นอกจากคุณค่าทางเศรษฐกิจแล้ว บริษัทฯ ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างรายได้ให้ชุมชนจากการคัดแยกขยะพลาสติก และช่วยลดการรั่วไหลของขยะลงสู่ทะเล

นายอวยชัย ศิริวจนา กรรมการบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ เอ็มเทค สวทช. พัฒนาหม้อแปลงไฟฟ้ารีแมนูแฟคเจอริ่ง (Remanufacturing Transformer) นวัตกรรมนำหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้แล้วมาปรับปรุงให้มีคุณภาพเทียบเท่าของใหม่ ผ่านการทดสอบมาตรฐานสากล 100% เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของประเทศไทย เพราะหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรจำนวนมาก การนำหม้อแปลงเก่ากว่า 1 ล้านเครื่องทั่วประเทศมาปรับปรุงใหม่ จะช่วยประหยัดวัตถุดิบ ลด

 

# Circular Economy  # Design for Circular Economy)