ข่าวประชาสัมพันธ์

บพท.ส่งทีมวิจัยยกการเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นธุรกิจผลิตขายครบวงจร

         นักวิจัย ม.ขอนแก่น ทุน บพท.แก้จุดอ่อนการเลี้ยงจิ้งหรีด เจอต้นทุนสูงเพราะซื้ออาหารสำเร็จรูป กลับมาพัฒนาสูตรเอง พร้อมเปลี่ยนวิธีคิดจากวิถีชีวิตเป็นธุรกิจ ผลิต ขาย แปรรูป วางระบบตลาด ครบวงจร  

ดร.อนุวรรตน์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าโครงการเพิ่มขีดวามสามารถผู้ประกอบการผ่านกระบวนการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าใหม่ของการเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทุนสนับสนุนของหน่วยบริการและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ขับเคลื่อนงาน 3 จังหวัด คือ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด พบว่าตลาดจิ้งหรีดมีมูลค่ารวม 23 ล้านบาท แต่เม็ดเงินไปถึงมือกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่เพียง 7 ล้านบาท เพราะเกษตรกรต้องซื้ออาหารจิ้งหรีดสำเร็จรูปจากนอกพื้นที่  ดังนั้นสิ่งที่ดำเนินการต้นน้ำคือการพัฒนาสมรรถนะและศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด เพื่อให้เกิด ผู้ผลิตอาหารจิ้งหรีดในพื้นที่ตั้งแต่วัตถุดิบจากอาหารสัตว์ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ในพื้นที่ เพื่อปิดช่องว่าง ลดการพึ่งพิงห่วงโซ่ (Chain) จากนอกพื้นที่ ออกแบบการจัดการธุรกิจที่จะทำให้รายได้กระจายสู่เกษตรกรและผู้ประกอบการอย่างทั่วถึงและเหมาะสม

ทีมวิจัย ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร 11 กลุ่ม 124 คน ทำงานร่วมกันช่วยให้เกษตรกรผลิตอาหารจิ้งหรีดต้นทุนต่ำโดยใช้ทรัพยากรพื้นถิ่น โดยสูตรอาหารสำเร็จรูปสูตรใหม่ ลดต้นทุนการผลิตจิ้งหรีดจาก กก.ละ 71.99 บาทจิ้งหรีด เหลือเพียง  กก.ละ61.06 บาท

ทีมวิจัยให้ความรู้การดำเนินธุรกิจ เป็นทั้งพี่เลี้ยง โค้ชให้กลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีด และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง มีทักษะการบริหารจัดการเชิงธุรกิจในแบบธุรกิจปันกัน วิถีแห่งการเกื้อกูล สร้างผู้รวบรวมในพื้นที่  เป็นโซ่ข้อกลางที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง เหมาะสมและเป็นธรรม

นายภูดิส หาญสวัสดิ์ ตัวแทนผู้ประกอบการจากภูดิศ บั๊กฟาร์ม และวิสาหกิจชุมชนจิ้งหรีดอำเภอโนนศิลา จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หากควบคุมปัจจัยการผลิตด้านความสะอาด อาหาร และอุณหภูมิได้  ด้วยเทคนิคและวิธีการใหม่ จะลดเวลาการผลิตจิ้งหรีดจาก 45 วัน เหลือเพียง 34-36 วัน

ดร.อนุวรรตน์ กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้มองว่า การเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นธุรกิจ มองเป็นวิถีชีวิตที่คล้าย ๆ กับการทำนา จึงต้องเปลี่ยน Mindset ใหม่ เสริมมุมมองการทำธุรกิจให้รู้ว่า การเลี้ยงจิ้งหรีดก็คือการลงทุนทำธุรกิจ ได้เงินมาต้องจัดการแบ่งส่วนไว้สำหรับการเลี้ยงรอบต่อไป เพื่อไม่เป็นหนี้เพิ่ม เป้าหมายของงานวิจัยชิ้นนี้นอกจากต้องการให้เกษตรกรมีศักยภาพในการเลี้ยงจิ้งหรีดให้ได้คุณภาพแล้ว ยังต้องจัดการธุรกิจของตนเองได้ วิเคราะห์ทิศทางหรือเป้าหมาย โดยเฉพาะตลาด ศึกษามาตรฐานของผลผลิตจิ้งหรีดที่เข้าเกณฑ์การส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ความสนใจหรือคุณค่า ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ยิ่งขึ้น

เกษตรกรทั้ง 11 กลุ่ม ที่เข้าร่วมโครงการ ได้รวมตัวเป็นเครือข่ายความร่วมมือหน่วยธุรกิจในพื้นที่ สร้างอำนาจการต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเรื่องอาหาร การจัดหาจิ้งหรีดให้ได้ตามออร์เดอร์   ระยะต่อไปทีมวิจัยตั้งเป้าจะยกระดับเป็นเครือข่ายธุรกิจ ร่วมกับภาคีเครือข่ายอีกหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นางอรวรรณ วอทอง นักวิจัยชุมชน หัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านฮ่องฮี จ.กาฬสินธุ์ ได้รับรางวัล เลิศรัฐรางวัลระดับประเทศ ด้านจิ้งหรีดปลดหนี้แก้จน ประเภทรางวัลดีเด่น เมื่อปี 2567 กล่าวว่า เดิมเราเลี้ยงจิ้งหรีดขายตามฤดูกาล ขายพ่อค้าคนกลาง โดนกดราคา การเลี้ยงไม่ได้มาตรฐาน จึงตัดสินใจกู้เงินจาก ธกส. ได้รับการหนุนเสริมจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำแผนธุรกิจ ทำโรงเรือนจิ้งหรีด เป็นพี่เลี้ยงพาเราเรียนรู้ ลงมือทำด้วยกัน พัฒนาจนได้มาตรฐานฟาร์ม GAP ปรับกระบวนการเลี้ยง จนผลิตจิ้งหรีดคุณภาพ มีเงินมาชำระหนี้จากการสร้างโรงเรือน จนปลดหนี้ได้ในปีนี้ จัดการเงินหมุนเวียนเพื่อการลงทุนต่อไปได้

นางอรวรรณ กล่าวว่า แม้ปรับเปลี่ยนกระบวนการเลี้ยงจิ้งหรีดและนวัตกรรมการผลิตที่มีคุณภาพแล้ว วางแผนธุรกิจ บันทึกรายรับ-รายจ่าย วางแผนการผลิตได้ แต่ สิ่งที่ผู้เลี้ยงจิ้งหรีดอยากเห็น คือตลาดกลางหรือจุดรวมจิ้งหรีดระดับภูมิภาค ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดได้เดินตามเส้นทางของธุรกิจที่เป็นธรรม ไม่ถูกตัดราคาจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป

 การเลี้ยงจิ้งหรีด ไม่มีการแข่งขัน หากเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายได้ แบ่งปันกันได้ ทั้งความรู้ นวัตกรรม และตลาด ก็จะเกิดความยั่งยืนในกลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีดและผู้ประกอบการที่เลี้ยงเป็นอาชีพหลัก  ทั้งเกษตรกร คนตกงาน หรือถูกเลิกจ้าง ก็กลับมาเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมอยู่ในชุมชนได้  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านฮ่องฮี มีผลิตภัณฑ์เป็นจิ้งหรีดตัว แต่ก็มองถึงการก้าวไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการส่งออกอย่างมีมาตรฐาน

จิ้งหรีดสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยเฉพาะในชนบทที่มีพื้นที่จำกัด เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในไทยมีมากกว่า 20,000 ราย มากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ปัจจุบันกลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีดที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและส่งออกต่างประเทศ กลับเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในพื้นที่ภาคกลาง และอื่น ๆ