วิศวฯ ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ส่องเทรนด์ AI ปี 2025 เครื่องมืออัจฉริยะที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การสืบค้นข้อมูลจะเลือก AI แทน Search Engine คนจะอยู่ได้ จึงต้องใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยทำงานให้เก่ง เร็ว ดีขึ้น
ผศ.ดร. ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (College of Engineering and Technology : CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวถึงเทรนด์ปี 2025 ว่า AI ยังเป็นเทคโนโลยีที่สร้างผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การทำงาน การเรียน ที่ทุกช่วงวัยไม่ควรมองข้าม ให้เตรียมพร้อมเพื่อก้าวให้ทันความท้าทายใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
“การสืบค้นข้อมูลผ่าน ChatGPT หรือ AI ตัวอื่น ๆ มีแนวโน้มสูงขึ้น การสืบค้นแบบเก่า ผ่าน Search Engine ต่าง ๆ เริ่มน้อยลง เนื่องจาก AI มีความสามารถมากขึ้น สรุปข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วกว่า ช่วยทำงานเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ เช่น ร่างเอกสาร วาดรูป แปลและเรียบเรียง แต่งเพลง สำรวจงานวิจัย สรุปเนื้อหาวิชา เขียนโปรแกรม งานขึ้นต้นแบบ เขียนแบบ โครงร่าง การทดสอบไอเดีย เปรียบเสมือนมีเลขาหรือผู้ช่วยส่วนตัว AI บางตัวสั่งการด้วยเสียงได้แล้ว รองรับภาษาไทยได้ค่อนข้างดี สิ่งที่ต้องระวังผลงานที่ AI ทำออกมา อาจมีข้อผิดพลาด คาดไม่ถึง ซึ่งเกิดจาก Halucination (หลอน) ของตัว AI เอง เหมือนอาการของคนเพ้อ ดังนั้นผู้ใช้ต้องกลั่นกรองผลลัพธ์ต่าง ๆ ให้ดี” ผศ. ดร. ชัยพร กล่าว
มีการทดสอบการให้ AI ทำงานแทนหรือ AI Agent โดยใช้การ LAM (Large Action Model) เช่น ค้นหา จองโรงแรมหรือตั๋วเครื่องบิน ค้นหา ซื้อสินค้าที่ต้องการ การอ่าน ส่งอีเมล์ การลงตารางเวลา การตอบคำถามลูกค้าโดยอัตโนมัติ เขียนและทดสอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูล spreadsheet สร้างกราฟอัตโนมัติ แต่การให้ AI ทำงานบางอย่างแทน ต้องให้ข้อมูลส่วนตัว ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ซึ่งมีความเสี่ยงพอสมควร เนื่องจากไม่เห็นกระบวนการทำงานของ AI ที่นำข้อมูลไปทำงาน รวมทั้งความเสี่ยงข้อมูลสำคัญหลุดหรือถูกแก้ไขจากข้อผิดพลาดของ AI เอง ซึ่งต้องระวัง กำหนดนโยบายการใช้งาน AI Agent ให้ดี
AI สนับสนุนการทำธุรกิจได้มากมาย เช่น ช่วยวิเคราะห์คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าให้ทำการตลาดได้แม่นยำขึ้น การสร้าง Chatbot ช่วยตอบคำถามหรือข้อสงสัยของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ประกาศหรือผู้อ่านข่าวเสมือน การช่วยสรุปรายงานการประชุม เป็นต้น แต่งานที่ AI ทำ ก็ควรกลั่นกรองด้วยคน ขณะที่ AI ก็ลดจำนวนคนลง เทียบกับยุคก่อนมีเครื่องคิดเลข เราก็เสียเวลาบวกลบคูณหาร พอมีเครื่องคิดเลขก็ร่นเวลาการคำนวณที่ซับซ้อนได้เร็วขึ้น ผู้ใช้งานก็ขยับไปทำงานที่ใช้พลังความคิดหรือการสร้างสรรค์มากกว่า หรือมองภาพรวมของงานขนาดใหญ่ขึ้น
“ดังนั้นจะอยู่รอดได้ในยุคของAI ต้องมอง AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเราทำงานเก่งขึ้น เร็วขึ้น ดีขึ้น แต่ถ้าขาดการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสุดท้ายเราก็จะถูกแทนที่” ผศ.ดร.ชัยพร กล่าว
ผู้ให้บริการ AI ส่วนใหญ่ ผ่านระบบสมาชิก อาจไม่มีหรือมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนรายปี บริการแบบฟรียังมีอยู่ เพียงแต่อนาคต การหารายได้จากผู้ใช้งานฟรี อาจอยู่ในรูปแบบโฆษณา ที่มีการใช้งาน Advertisement token ซึ่งผู้ให้บริการ AI ให้กับเจ้าของธุรกิจซื้อ token สำหรับคำตอบการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ prompt ที่ผู้ใช้งานถามตัว AI ในอนาคตเจ้าของธุรกิจอาจจะต้องทำการตลาดด้วย SEO หรือซื้อ Advertisement token กับผู้ให้บริการ AI
“จากที่เคยมี Email Account หรือ Chat ID ต่อจากนี้ คาดว่าคนจะมี AI Account ที่ช่วยดำเนินการต่าง ๆ เสมือนการมี Jarvis (โปรแกรมอัจฉริยะที่ทำงานกับมนุษย์ผ่านการสั่งด้วยเสียง)ในภาพยนตร์ ช่วยงานต่าง ๆ แทน เช่น สั่งรวบรวมข้อมูล ซื้อสินค้า จองห้องพัก เขียนตอบอีเมล เปิดโปรแกรม Excel เอาข้อมูลมาคำนวณ สร้างกราฟ ซึ่งต้องระวังความผิดพลาดที่อาจเกิดจากทำงานของ AI ได้ ต้องคอยระวัง ไม่ให้เกิดผลกระทบจาก action ที่ผิดพลาดของ AI โดยเฉพาะงานที่อ่อนไหวและความมั่นคง” ผศ.ดร.ชัยพร กล่าว
AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกในช่วง 1 ถึง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้งานต่างๆ เรียนรู้ นำมาช่วยทั้งการทำงาน การเรียน และอื่นๆ สร้างความได้เปรียบจากทักษะการใช้ AI แต่ก็อาจมีบทบาทด้านลบ ในแง่ของการทดแทนคนทำงานได้ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ สำรวจพบ การใช้งาน Generative AI เพื่อลดเวลาและขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนได้จริง การทำงานที่ประสิทธิภาพมากขึ้น มูลค่าตลาดทั่วโลกของธุรกิจที่ใช้งาน Generative AI ในปี 2024-2030 จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 46.47 ต่อปี ดังนั้นในปี 2025 AI จะมีบทบาทที่สำคัญ
หลักสูตรวิศวะ-ไอทีของ DPU ได้พัฒนาการเรียนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยนำ AI และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องมาช่วยการเรียนของนักศึกษา สร้างและพัฒนา AI สำหรับประยุกต์ใช้งานต่าง ๆ โดยตรง เช่น หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หลักสูตรวิศวกรรมข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น ดูรายละเอียดได้ที่ cite.dpu.ac.th สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยห้องปฏิบัติการเฉพาะทางที่ทันสมัย แต่ละปีนักศึกษาจะทำโครงงาน หรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เป็นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสำหรับตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต