สกสว.ทบทวนแผน ววน. ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจคุณค่า - เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้แข่งขัน พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ควบคู่การปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 ร่วมกับสภาพัฒน์ หวังผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ผศ. ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ รองผอ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มีความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 68 จัดโดยสำนักยุทธศาสตร์แผน ติดตามและประเมินผล สกสว. และสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)
รองผอ. สกสว. กล่าวว่า จากการจัดงานกระตุก GDP ไทยด้วยกองทุน ววน. ชี้ชัดว่าประเทศไทยยังมีโอกาส หากยกระดับการลงทุนวิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริง ด้วยบริบทและสถานการณ์ของประเทศและโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายชาติ จึงจำเป็น สกสว. และ สอวช. ต้องทบทวนแผนด้าน ววน. ให้มีความชัดเจน
ทั้งนี้ แผนด้าน ววน. ระยะแรกกำหนดรากฐานจากสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้เห็นมุมมองการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้ความเข้มแข็งที่เรามีอยู่ โดยเฉพาะด้าน BCG เป็นโอกาสดีที่จะสะท้อนข้อมูลที่คมชัดมากขึ้นจากประสบการณ์การดำเนินงาน เพื่อได้แนวทางการเริ่มต้นจากการพัฒนาแผนด้าน ววน.ฉบับใหม่
ผศ. ดร.พูลศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการกีดกันทางภาษีการค้าในปัจจุบัน ยังมีโอกาสของไทยในการแปรรูปอาหารที่เป็นจุดสำคัญของแผน ววน.ฉบับใหม่ ค่าเป้าหมายหลายแผนประสบความสำเร็จเกินคาด การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศไทยเป็นสิ่งที่น่ากังวล อยู่ในจังหวะการทบทวนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 ของสำนักงานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ควบคู่กับการปรับปรุงและพัฒนาแผนด้าน ววน. ไปพร้อมกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง เช่น การทำแผนวิจัยตามเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. หรือการใช้ประโยชน์จากการวิจัยแบบจำเพาะเจาะจง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กองทุน ววน. เติบโตไปอย่างช้า ๆ ตามสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้นเป้าหมายในระยะถัดไปจึงริเริ่มทำให้งบประมาณวิจัยเติบโต เป็นตัวสร้างความร่วมมือและขับเคลื่อนกับภาคเอกชนเพื่อสร้างการลงทุนร่วมกัน และเรียนรู้ประสบการณ์ไปด้วยกันเพื่อให้เติบโตในเชิงวิจัยและนวัตกรรมมากขึ้น
ที่ประชุมหารือถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าแผนงานของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจไทยฯ ทั้งด้านสุขภาพการแพทย์ เกษตรและอาหาร การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พลังงาน เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบโลจิสติกส์และระบบรางของประเทศ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจฐานนวัตกรรม รวมถึงนำเสนอความก้าวหน้า ข้อเสนอแนะต่อการปรับปรุงผลสัมฤทธิ์สำคัญ และจุดติดขัดหรือปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา ตลอดจนวิธีการบริหารจัดการและการดำเนินงาน กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แผนงานบรรลุเป้าหมายภายในปี 2570