ข่าวประชาสัมพันธ์

ปรับปรุงพื้นที่เรือนจำกลางเก่าพัทลุง เป็นสาธารณะประโยชน์มากที่สุด

จังหวัดพัทลุงเดินหน้านำพื้นที่เรือนจำกลางพัทลุงหลังเก่า มาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์ต่อชาวพัทลุงให้มากที่สุด มุ่งใช้เป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรมของเยาวชน ถนนคนเดิน และจัดงานประเพณี

จากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้ย้ายเรือนจำกลางพัทลุงหลังเก่า ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง  เนื้อที่  44  ไร่เศษ  ไปอยู่ที่เรือนจำกลางพัทลุงหลังใหม่  พื้นที่ หมู่ที่ 6   ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่เศษ  ตั้งแต่วันที่  10  มกราคม  2568  ทางด้านนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผวจ.พัทลุง ได้เร่งประสานงานไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรมของเยาวชน ถนนคนเดิน และเป็นพื้นที่การจัดงานประเพณี การจัดงานประจำปีของทางจังหวัดพัทลุง ฯลฯ  เพื่อมิให้การจัดงาน    บริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง ได้สร้างความเดือดร้อนแก่บุคลากรทางแพทย์  พยาบาล และผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวใน  รพ.พัทลุง  ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพัทลุง ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวันที่  23 เมษายน 2568 นายปรีชา นวลน้อย รอง ผวจ.พัทลุง  ได้นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง บริษัทที่ปรึกษาในการออกแบบ   ลงดูสภาพพื้นที่และโครงสร้างภายในเรือนจำกลางพัทลุง หลังจากนี้ทางสำนักงานธนารักษ์จังหวัดฯจะมอบพื้นที่เรือนจำกลางฯหลังเก่าให้กับทางจังหวัดฯเพื่อดำเนินการพัฒนาปรับปรุงตามขั้นตอนต่อไป และได้เน้นย้ำให้ผู้สำรวจออกแบบได้คงสภาพต้นไม้ในพื้นที่เรือนจำกลางหลังเก่าให้คงไว้ให้มากที่สุด  เพื่อสร้างปอดแห่งใหม่ให้กับประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง 

นายปรีชา ฯ กล่าวว่า ได้นำคณะทำงานการปรับปรุงเรือนจำกลางพัทลุงหลังเก่า เพื่อนำไปสู่การสำรวจออกแบบตามขั้นตอนต่อไป  หลังจากดูสภาพพื้นที่เรือนจำกลางหลังเก่าแล้ว ทุกๆฝ่ายจะร่วมกันประชุมเพื่อสรุปแนวทางการดำเนินงานกันอีกครั้ง  ส่วนการโยกย้ายทรัพย์สินของเรือนจำที่ยังเหลืออยู่นั้นทางเรือนจำจะมีการเคลื่อนย้ายให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา  3  เดือน ส่วนงบประมาณนั้นจะขอสนับสนุนจากงบประมาณของจังหวัดและงบประมาณจากกลุ่มภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย  ในขณะเดียวกันจะมีการจัดทำประชาพิจารณ์จากชุมชน  ผู้นำท้องถิ่น  ส่วนราชการ ฯลฯ และก่อนหน้านี้กลุ่มหนุ่มสาวของ YEC จังหวัดพัทลุง ได้เสนอเรื่องการพัฒนาปรับปรุงเรือนจำกลางพัทลุงต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้วเช่นกัน  คาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาประมาณ  2  ปี  คาดว่าในปี  2571  น่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ต่อพี่น้องชาวพัทลุงได้.